เพราะในวัยเด็กวัยรุ่นหรือเริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่นั้นร่างกายสามารถที่จะทำการสังเคราะห์หรือสร้างสารกลูโคซามีนได้เป็นปกติอยู่แล้วจึงทำให้กลุ่มของบุคคลดังกล่าวไม่ค่อยพบเจออาการหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระดูกมากนักแต่สำหรับกลุ่มของผู้สูงอายุนั้นร่างกายจะมีการผลิตสารที่มีความสำคัญต่างๆน้อยลงกลูโคซามีนก็เป็นหนึ่งในสารนั้นที่ถูกผลิตน้อยลงจึงเป็นที่ไม่เพียงพอต่อระบบร่างกายของเราจึงทำให้ผู้ที่มีอาการขาดสารประเภทกลูโคซามีนนั้นมีอาการเจ็บหรือปวดในบริเวณของกระดูกหรือข้อต่อเพราะหน้าที่หลักๆของเจ้าตัวกลูโคซามีนเลยก็คือช่วยลดและยับยั้งอาการสึกกร่อนของกระดูกซึ่งถ้าหากเจ้าตัวกลูโคซามีนมีในปริมาณที่ไม่เพียงก็อาจจะทำให้กระดูกนั้นเกิดการแตกหักหรือเปราะได้ง่าย

 

สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาอาการกระดูกเปราะหรือข้อเข่าเสื่อมด้วยการรับประทานยาประเภทกลูโคซามีนนั้นอาจจะต้องใช้เวลาในการรักษาเพราะเจ้าสารกลูโคซามีนนั้นเป็นสารที่ออกฤทธิ์ช้าจึงทำให้การรักษาหรือการเห็นผลที่ชัดเจนนั้นต้องใช้เวลาและระยะที่ยาวนานพอสมควรอาจจะเป็นหลายสัปดาห์จนถึงเดือนหรืออาจจะเป็นหลายเดือนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคนซึ่งทางการแพทย์นั้นยังไม่พบว่าการใช้สารกลูโคซามีนในระยะเวลาที่ยาวนั้นจะมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

 

แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถใช้สารกลูโคซามีนได้โดยมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ป่วยบางรายอย่างเช่น

1.ผู้ป่วยที่การทำงานของไตไม่เป็นปกติ

2.ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน

3.ป่วยที่มีอาการหอบหื่น

4.ผู้ป่วยที่อาการแพ้สัตว์น้ำประเภทที่มีเปลือกเพราะสารกลูโคซามีนที่ได้จากการสังเคราะห์ส่วนมากมักจะสกัดมาจากสัตว์น้ำมีเปลือก

5.สำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์